บทที่ 1 เชียงราย

รถกระบะโฟร์วีลสี่ประตูเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าชื่อดังประจำจังหวัด เมื่อสายรายงานว่า ‘เหยื่อ’ มาถึงแล้ว ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มก่อนจะพลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา เพิ่งจะบ่ายสามโมงกว่า ๆ แต่บรรยากาศรอบด้านกลับดูเหมือนหกโมงเย็น คงเป็นเพราะฝนที่เพิ่งเทกระหน่ำลงมา เลยทำให้ดูมืดครึ้มไปทั่วบริเวณ

สถานีขนส่งจังหวัดเชียงราย

ร่างบอบบางสะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ เดินลงมาจากรถทัวร์เมื่อกระเป๋ารถประกาศให้ทราบว่าถึงจุดหมายปลายทางแล้ว มือบางควานหามือถือที่กำลังสั่นในกระเป๋าสะพายใบเล็กเพื่อกดรับสาย เพราะเธอปล่อยให้มันสั่นมาแบบนี้มาพักใหญ่ ๆ แล้ว

“ค่ะแม่ ป่านขึ้นเครื่องคืนพรุ่งนี้ค่ะ” ตอบปลายสายก่อนจะต้องรีบยกมือปิดมือถือ เมื่อมีเสียงเรียกผู้โดยสารดังแทรกเข้ามา

“เกือบไปแล้ว” ลันลดาเป่าลมออกจากปาก รู้สึกโล่งใจเมื่อปลายสายไม่สงสัยอะไร ก่อนจะคลายนิ้วที่ไขว้ไว้ด้านหลังออกจากกัน

“ขอโทษนะคะ” รู้สึกผิดที่ต้องโกหกมารดาคำโต

มือบางยกมือถือขึ้นมาดู ก่อนจะพิมพ์ชื่อสถานที่ที่ต้องการไปเพื่อดูระยะทาง ‘ไร่แสงตะวัน’ คือสถานที่นั้น เพราะตอนนี้พ่อแม่และพี่สาวเธออยู่ที่นั่น

กำหนดการเดินทางมาเชียงรายของลันลดาคือวันพรุ่งนี้           แต่เพราะความซุกซน จึงทำให้เธอเก็บกระเป๋าผ้าขึ้นรถทัวร์มาตั้งแต่เมื่อคืนวาน การเดินทางยาวนานไม่ได้ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกเพลียเลย สักนิด เพราะเธอตื่นเต้นที่จะได้ไปเซอร์ไพรส์ครอบครัว

“ต้องหารถนั่งเข้าไป” พูดกับตัวเอง ก่อนจะมองหารถรับจ้างที่จอดอยู่บริเวณนั้น

“ลุงคะ ๆ ไปไร่แสงตะวันเท่าไรคะ” ร้องถามเมื่อเดินมาถึงรถ    คันแรก

“โอ๊ย! ป่านนี้แล้วไม่ไปหรอก ไปถามคันอื่นไป๊” คนขับรถปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย ก่อนจะเดินหนีไปอีกทาง

“อ้าว...” ลันลดางงหนัก เมื่อถูกคนขับกระทำกิริยาแบบนั้นใส่ มันเสียมารยาทมากเลยนะลุง หญิงสาวตำหนิผู้ชายคนนั้นในใจ

“พี่คะ ๆ ไปไร่แสงตะวันเท่าไรคะ” ลันลดาถามรถคันที่สอง     ก่อนจะต้องอึ้ง เมื่อคำตอบที่ได้เหมือนกับคันแรกไม่มีผิด ไร้มารยาทหญิงสาวสะบัดหน้า แล้วเดินไปถามรถคันถัดไป

ร่างบางยกมือขึ้นเกาหัว เมื่อถามมาตลอดทางแต่ถูกปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย ไม่มีรถคันไหนไปส่งเธอสักคัน คนเหล่านั้นให้เหตุผลว่าฝนตกถนนลื่น อากาศก็มืดครึ้ม จึงไม่มีใครอยากขับรถขึ้นเขา

“ก็ไม่ได้อยู่นอกแผนที่นี่ ไปยากเย็นขนาดนั้นเลยเหรอ”

พูดกับตัวเอง เมื่อแบกกระเป๋าเดินไปยังรถสองแถวคันที่จอดถัดมา ขอให้คันนี้ตกลงด้วยเถอะ เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงต้องค้างคืนในตัวเมืองแน่นอน

“พี่คะ ๆ พี่ช่วยไปส่งที่ไร่แสงตะวันหน่อยได้ไหมคะ” ลันลดาร้องถาม เมื่อเดินมาถึงตัวรถ

“ป่านนี้แล้วไม่ไปหรอก” เสียงแหบพร่าของคนขับรถที่บอกปฏิเสธ ทำให้ลันลดาหน้าเสีย เพราะตอนนี้ไม่มีรถเหลือให้ถามอีกแล้ว นี่คือคันสุดท้าย

“พี่คะ ช่วยหนูหน่อยได้ไหม พอดีหนูมีธุระต้องไปที่นั่นค่ะ”

ลันลดาลอบเบะปากให้ตัว เมื่อใช้เสียงสองอ้อนคนขับรถ คงไม่เป็นไร เขาคงไม่คิดว่าเธออ่อยมั้ง

ดวงตาคมเข้มภายใต้กรอบแว่นตาสีดำ มองสำรวจคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจดเท้า คุณหนูลันลดา... ลูกสาวคนเล็กของคุณประกร คนที่เคยเป็นคู่หมั้นของพ่อเลี้ยงเผ่าเพชร ริมฝีปากหยักเหยียดยิ้มเมื่อนึกว่าโชคดีของคุณเผ่าแล้วที่ไม่ได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นคู่ชีวิต เพราะรู้สึกไม่ถูกชะตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น พอได้มาเจอใกล้ ๆ ยิ่งรู้สึกว่าเธอไม่คู่ควรกับเจ้านายของเขาจริง ๆ

“จะไปที่ไร่แสงตะวันทำไม” ถามกลับไปอย่างนั้น เพราะเขารู้คำตอบของเธออยู่แล้ว

“ไปธุระค่ะ” หญิงสาวตอบรวม ๆ จะให้เธอบอกว่าไปเที่ยวเล่น    ก็ไม่ใช่ที่

“หึ!” อาคมคำรามในลำคอ ไปธุระหรือจะไปทำให้คนที่นั่นไม่สบายใจกันแน่ อย่างน้อยก็นายหญิงคนหนึ่งที่ต้องลำบากใจกับการมาของเธอ

อาคมมองหน้าหญิงสาวอีกครั้งพร้อมกับคิดอะไรบางอย่าง      ถ้าการไปที่ไร่ของเธอทำให้นายหญิงลำบากใจ งั้นเธอก็ไม่ต้องไป

“ขึ้นมาสิ เดี๋ยวไปส่งให้ก็ได้ เห็นว่าเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว นี่มันก็จะมืดแล้ว ถือว่าช่วยเอาบุญ”

ลันลดายิ้มหวาน เมื่อผู้ชายตรงหน้าตอบรับคำขอของเธอ

“ขอบคุณมากนะพี่ ขอบคุณจริง ๆ ถ้าไม่ได้พี่หนูต้องแย่แน่ ๆ ขอบคุณน้า” หญิงสาวร้องบอกด้วยความดีใจพร้อมกับยกมือไหว้เขา ก่อนจะสะพายเป้เดินไปด้านหลังรถ

“นั่งข้างหน้าด้วยกันก็ได้ ฝนยังลงเม็ดอยู่ นั่งข้างหลังเดี๋ยวเปียก”

น้ำเสียงที่ส่งมาด้วยความอาทร ทำให้ร่างบางหันไปยิ้มหวานให้อีกครั้ง ถึงแม้จะมองเห็นหน้าเขาไม่ชัด เพราะมีทั้งหมวกทั้งแว่นตา     แต่ลันลดาก็รับรู้ได้ว่าเขาไม่ใช่คนเลวร้าย

“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ งั้นหนูเอาเป้วางไว้ข้างหลังก็ได้ เดี๋ยวมันเกะกะพี่” ลันลดาบอกก่อนจะรีบวิ่งไปหลังรถ ปลดเป้ลงจากบ่า แล้ววิ่งมานั่งหน้ารถอย่างรวดเร็วเพราะเกรงใจคนที่ติดเครื่องยนต์รออยู่       รถสองแถวเคลื่อนตัวออกไป พร้อมกับอาการมึนงงของชายฉกรรจ์ กลุ่มใหญ่ที่ยืนอยู่บริเวณนั้น

“คุณคมจะทำอะไรวะ ไหนว่าจะมาดูหน้าอย่างเดียวไง”

“คงพาไปส่งที่ไร่แสงตะวันมั้ง” ใครบางคนในกลุ่มตอบคำถามเพื่อน

“อืม... ถ้าแค่นั้นก็ดีไป”

“มึงกำลังคิดว่า...”

“กูอาจจะระแวงไปเอง”

“เราต้องโทร. บอกพ่อเลี้ยงไหมวะ”

“มึงอยากตกงานก็เอาสิ”

สิ้นสุดการสนทนา เมื่อเสียงมือถือของใครบางคนดังขึ้น

“ครับ... เข้าใจแล้วครับ” ณรงค์กดวางสาย ก่อนจะหันมาหาเพื่อน

“เรื่องนี้ห้ามให้ถึงหูพ่อเลี้ยงเด็ดขาด”

ณรงค์กำชับทุกคนอีกครั้ง คนกลุ่มนั้นพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะ  แยกย้ายไปยังรถที่จอดไว้ใกล้ ๆ กับสถานีรถประจำทาง

..............................................................................................................................

สวัสดีค่ะ ฉุดลากกระชากรักเป็นนิยายในชุดหนุ่มบ้านไร่นะคะ ประกอบไปด้วย พ่ายรักเมียสวมรอย สินธรภัทรทิรา กรงรักพันธะเถื่อน ฉุดลากกระชากรัก เจ้าสาวของธาวินทร์ อ่านไล่จากพ่ายรักเมียสวมรอยมาจะฟินมาก ฝากด้วยนะคะ

บทถัดไป